ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าจะเติบโตหรือไปในทิศทางใด เพราะผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีของไทยในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะเติบโตในอัตรา 2.8% เป็นการปรับลดลงมาจากก่อนหน้าที่คาดว่าจะเติบโต 3.5%
ขณะเดียวกันเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกรวมถึงประเทศไทยยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติเช่นเดียวกัน อาจจะส่งผลกระทบมายังเศรษฐกิจไทยรวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยได้ด้วย ยังไม่นับรวมถึงปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และมีสงครามตะวันออกกลางที่ยังไม่มีรู้ว่าจะเป็นอย่างไร รวมถึงการเลือกตั้งของประเทศต่าง ๆ 50-60 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อจีดีพีไทยทั้งสิ้น
การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ จะมีทิศทางเดียวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตได้ดี คือ มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐบาล ซึ่งในปีนี้ยังคงต้องเฝ้าจับตาว่ารัฐบาลจะมีมาตรการอะไรออกมากระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์หรือไม่
โดยประเทศไทยมีความพร้อมในการพัฒนาระบบคมนาคม ซึ่งในอนาคตจะมีความสะดวกสบายมากขึ้น อาทิ การขยายพื้นที่ของสนามบินต่าง ๆ เพื่อรองรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสนามบินสุวรรณภูมิในอีก 6 ปีข้างหน้าจะรองรับได้ถึง 150 ล้านคนต่อปี
“ระบบสาธารณูปโภค ถือว่ามีส่วนสำคัญต่อภาคอสังหาฯ ในอดีตเส้นทางรถไฟฟ้ากระจุกตัวอยู่ในพื้นที่กลางเมือง ทำให้คอนโดเกิดขึ้นในตัวเมือง ซัพพลายมีไม่มาก แต่พอมีระบบสาธารณูโภคเกิดขึ้นมาก มีการกระจายตัว ทำให้เกิดการพัฒนาอสังหาฯ ในพื้นที่ว่าง เป็นทางเลือกให้ผู้ซื้อมากขึ้น แม้แต่ชาวต่างชาติ การตัดสินใจไปอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง พิจารณาจากการเดินทางหรือการใช้ชีวิตของคนในประเทศนั้นว่าเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้จะช่วยตัดสินใจง่ายขึ้นในการเข้ามาอยู่”
สำหรับการที่ชาวจีนเลือกซื้ออสังหาฯ ของไทยนั้น เป็นเพราะมองว่า ประเทศไทยมีข้อดีในเรื่อง การมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและมีความมั่นคง มีโอกาสด้านการลงทุน การที่ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์ โดยสิ่งที่ชาวจีนคาดหวังจะได้หรับ มี 3 เรื่อง คือ 1.ทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย 2.สภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยที่ดี และ 3.สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ ได้อย่างถูกกฎหมาย ทั้งประเภทบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ซึ่งหากโครงการอสังหาริมทรัพย์ สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าชาวจีน