ธุรกิจที่ปรึกษาทางการขาย การตลาด เป็นธุรกิจรูปแบบใหม่ ซึ่งเข้ามาแก้ปัญหา สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในปัจจุบัน ทั้งสภาวะโรคระบาด ดอกเบี้ยที่พุ่งสูง รวมถึงความไม่พร้อม ในการทำการตลาดของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก
และแน่นอนว่า ที่อยู่อาศัยคือ หนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำคัญในการเริ่มสร้างรากฐานของครอบครัว ดังนั้นรัฐบาลจึงกระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัยผ่านมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ นอกจากนี้รัฐบาลยังลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง เพื่อสนับสนุนการคมนาคมให้สะดวกรวดเร็ว ส่งผลให้มีนักพัฒนาอสังหาฯหน้าใหม่เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการเป็นจำนวนมาก
แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วงปี 2563 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ เกิดสภาวะชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่หรือบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ดีกว่าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ส่งผลให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก มักประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน และตัดสินใจใช้แหล่งเงินทุนนอกสถาบันการเงิน และในด้านการตลาดเนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็ก การทำสื่อโฆษณาจึงไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่ไม่มาก ซึ่งหลายๆปัจจัยที่ได้กล่าวมานี้ ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลาง ในแง่การหมุนกระแสเงินสดสำหรับการตัดจ่ายดอกเบี้ย รวมถึงการชำระคืนเงินต้นให้กับสถาบันการเงิน
ช่องว่างทางการตลาดตรงนี้ ธุรกิจของบริษัทฯ จึงถือกำเนิดขึ้นมาได้ อีกทั้งยังได้รับความนิยม เนื่องจากบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในลักษณะการเป็นนายหน้าเครือข่าย ทำการตลาดผ่านเครือข่ายนายหน้าจำนวนมากเป็นหลักหลายร้อยคน ซึ่งการทำการตลาดแบบไม่จำกัดจำนวนโครงการ ทำให้ทรัพย์ของเรามีหลากหลายทำเล มีสต็อกจำนวนมากให้เลือกขาย ทำให้มีทีมขายสนใจร่วมงานจำนวนมาก การขายจึงไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการรายกลาง รายเล็กหลายราย ให้ความสนใจกับรูปแบบการขายและผลงานของบริษัทเป็นอย่างมาก
นอกจากการบริหารงานขายและการเป็นที่ปรึกษาทางการขาย การตลาดแล้ว บริษัทยังให้บริการบริหารจัดการโครงการ โดยช่วยวางแผนและบริหารการขายเพื่อเสริมสภาพคล่องเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถชำระหนี้กับสถาบันการเงินได้ตรงตามสัญญา และมีเงินทุนหมุนเวียนในการก่อสร้าง นอกจากนี้บริษัทมีการซื้อทรัพย์โครงการที่มีปัญหาติด NPA,NPL หรือขาดสภาพคล่องมารีโนเวทและขายต่อเพื่อทำกำไร